โรคต้อกระจก รู้จักไว้ป้องกันได้ด้วย สารสกัดจากบิลเบอร์รี่ (Bilberry)

                ถ้าเอ่ยชื่อว่า โรคต้อกระจก เชื่อว่าหลายๆ คนอาจเคยได้ยินชื่อโรคนี้กันมาบ้างพอสมควร โรคต้อกระจก มีสาเหตุเกิดจาก ภาวะที่เลนส์แก้วตาเสื่อมสภาพ จนทำให้เลนส์แก้วตาเกิดความขุ่นมัว จนทำให้แสงไม่สามารถเดินทางผ่านเข้าไปในตาได้ตามปกติ หรือแสงไม่สามารถผ่านเข้าไปในตาได้อย่างเต็มที่ ทำให้ดวงตาเกิดอาการมองเห็นไม่ชัดเจน ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างเต็มที่ หรือมีอาการตามัว

                โรคต้อกระจก พบได้มากในผู้สูงอายุ สาเหตุหลักๆ มาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ โปรตีน หนึ่งในส่วนประกอบของเลนส์ตาเกิดความเสื่อม ทำให้เลนส์ตาขุ่มมัวขึ้น หรือนิวเคลียสในตาแข็งขึ้น ซึ่งโรคต้อกระจก นอกจากจะพบได้มากในผู้สูงอายุแล้ว ในบางรายยังอาจเกิดกับความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดอีกด้วย

                สาเหตุหลักในการเกิดโรคต้อกระจก นอกเหนือไปจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกหลากหลายอย่าง ที่อาจก่อให้เกิดโรคต้อกระจกได้ เช่น การได้รับแสงอัลตราไวโอเลตเข้าสู่ดวงตาเป็นเวลานานๆ, โรคประจำตัวที่อาจทำให้เกิดโรคต้อกระจก เช่น เบาหวาน ความดันโลหิต หรือโรคอ้วน, ในผู้ที่มีพฤติกรรมดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ, มีประวัติเป็นโรคที่เกี่ยวกับดวงตา เช่น ม่านตาอักเสบ หรือติดเชื้อ, การเกิดอุบัติเหตุที่ดวงตา หรือเคยได้รับความกระทบกระเทือนเกี่ยวกับดวงตา, การใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ หรือแม้แต่มีประวัติเคยมีคนในครอบครัวเป็นต้อกระจก ก็มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะต้อกระจกเข่นเดียวกัน อีกทั้งยังพบว่าโรคต้อกระจกมีโอกาสเกิดได้ในทุกคน

รู้ได้อย่างไร ว่าเป็นต้อกระจก ?

                สัญญาณบอกอาการของโรคต้อกระจก มักจะเริ่มต้นจากอาการตามัว แต่ไม่มีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย โดยจะมีอาการตามัวคล้ายมีหมอกบังตา โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในที่มีแสงสว่างมาก มองเห็นภาพซ้อน หรือมองเห็นแสงกระจาย โดยเฉพาะในเวลากลางคืน หรือเริ่มสังเกตเห็นฝ้าขาวบริเวณรูม่ายตา

                การป้องกันและรักษาโรคต้อกระจก สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการผ่าตัด โดยใช้วิธี สลายต้อกระจกด้วยคลื่นความถี่สูง หรือการผ่าตัดต้อกระจกเพื่อใส่เลนส์ตาเทียม หรือวิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลรักษาดวงตาตั้งแต่เนิ่นๆ โดยวิธีง่ายๆ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ, สวนแว่นกันแดดเพื่อป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตเป็นประจำ, พักสายตาบ้าง เมื่อต้องใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน, ไม่จ้องมองดวงอาทิตย์โดยตรง, ตรวจสายตาเป็นประจำ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือทานอาหารเสริม ที่มีส่วนผสมของวิตามิน เอ อี และซี หรืออาหารเสริมที่มีสรรพคุณในการปกป้อง ดูแล และบำรุงดวงตา เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคต้อกระจกในระยะยาวได้