กิน อยู่ ตามธรรมชาติ ให้ได้แคลเซียม
อย่างที่เราทราบกันไปแล้วว่า แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่มีอยู่ในร่างกายของคนเรามากกว่าส่วนอื่นๆ โดยจะมีผลในการทำงานเพื่อช่วยทำให้กระดูกและฟันมีความแข็งแรง แต่โดยปกติแล้วเมื่ออายุของพวกเราสูงขึ้นในแต่ละปีนั้น แคลเซียมในร่างกายก็จะค่อยๆ สลายไปเรื่อยๆ แต่ก็มีการสร้างขึ้นมาใหม่ โดยที่อาจจะไม่สามารถชดเชยส่วนที่สึกหรอไปได้มากนัก จึงต้องมีการกินอาหารต่างๆ เสริมเข้าไปอยู่เป็นประจำ หรือมีการเลือกซื้ออาหารเสริมแคลเซียมเพื่อกินเสริมเข้าไปอีก ก็ย่อมจะทำได้ แต่ในวันนี้พวกเราจะมากิน อยู่ กันตามธรรมชาติ แต่ต้องได้แคลเซียมอย่างเต็มที่ ซึ่งเราจะกิน อยู่ อย่างไรนั้น ล้อมวงกันเข้ามาอ่านได้เลย
อาหารที่เรากินกันอยู่ในปัจจุบันนี้ มีที่เป็นแหล่งแคลเซียมอยู่ไม่น้อยเลย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่เราพบได้ตามธรรมชาติ แล้วสามารถเลือกนำมาประกอบเป็นอาหารได้ ตัวอย่างเช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม ที่มีปริมาณแคลเซียมอยู่มาก จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมตอนที่เราเด็กๆ พ่อแม่ถึงพยามยามให้เราดื่มนมเยอะๆ ก็เพื่อจะมาสร้างความแข็งแรงของกระดูกนี่เอง มาต่อกันที่เมล็ดทานตะวันก็มีส่วนของแคลเซียมไม่น้อยกว่านม ส่วนถ้าจะพูดถึงผักที่มีปริมาณแคลเซียมมากๆ ก็เช่น กะหล่ำปลีเขียว บรอกโคลี่ ส่วนเนื้อปลา ก็เช่น ปลาซาร์ดีน ปลาแซลม่อน เป็นต้น
แต่เมื่อแคลเซียมมีประโยชน์มากมายในเรื่องการสร้างความแข็งแรงให้กับระบบร่างกายของพวกเราอย่างมากมาย แต่การกินแคลเซียมก็ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะถ้าหากเรากินแคลเซียมมากเกินไปจะทำให้เกิดสภาวะแคลเซียมในเลือดสูงได้ ก็จะแสดงอาการท้องผูก แถมยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคนิ่วในไต และเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอีกด้วย จึงควรจะต้องรับประทานแคลเซียมให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และมีความพอดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพร่างกายในอนาคต
เมื่อเราอยู่ในช่วงอายุปกติ ไม่ใช่วัย หรือกลุ่มคนที่มีความต้องการแคลเซียมเป็นพิเศษ อย่างสตรีมีครรภ์ การรับประทานอาหารในชีวิตประจำวันก็ถือว่ามีปริมาณแคลเซียมอยู่ในระดับหนึ่ง ที่ทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ประโยชน์ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ แต่เราก็อาจจะมีการซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาเพื่อกินเพิ่มเติม ให้ได้ปริมาณในร่างกายที่ดี เพื่อที่จะส่งผลไปตอนสูงอายุนั่นเอง
Share this Article