การบรรเทาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบด้วยสารสกัดจากแครนเบอร์รี่

แครนเบอร์รี่เป็นผลไม้สีแดงลูกเล็กๆ มีรสเปรี้ยวและอยู่กันเป็นกลุ่ม มีสรรพคุณในการรักษาโรคได้อย่างหลากหลาย เนื่องจากมีส่วนประกอบของวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์ในปริมาณที่สูงมาก ซึ่งสามารถช่วยขจัดเซลล์มะเร็งและโรคร้ายอื่นๆ อย่างได้ผล นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณช่วยป้องกันและต่อสู้กับโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดยได้รับการรับรองสรรพคุณจากประเทศสหรัฐอเมริกาถึงสารสกัดจากแครนเบอร์รี่ว่า สามารถช่วยรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพดีทีเดียว

อาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ผู้ป่วยที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้น ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดแสบและรู้สึกรำคาญใจ เนื่องจากมีอาการดังต่อไปนี้

1. ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยเพราะรู้สึกปวดปัสสาวะ แต่จะปัสสาวะได้ครั้งละน้อยมาก เนื่องจากรู้สึกว่ายังปัสสาวะไม่สุดและยังมีอาการปวดปัสสาวะต่อเนื่อง
2. มีทั้งอาการปวดท้องน้อย ปวดขัด และมีอาการแสบ โดยเฉพาะเวลาขณะปัสสาวะจะมีอาการมากขึ้น
3. รู้สึกรำคาญใจและสร้างความไม่มั่นใจให้กับตนเอง เนื่องจากปัสสาวะมีกลิ่นผิดปกติ หรือบางทีก็ปัสสาวะขุ่นและมีเลือดปนออกมา

สารสกัดจากแครนเบอร์รี่ดีอย่างไร

ในสารสกัดจากแครนเบอร์รี่จะมีสารสำคัญหลายชนิด และมีคุณสมบัติที่เกี่ยวเนื่องกับอาการของโรค จึงช่วยในการบรรเทาอาการโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้

1. เนื่องจากในสารสกัดจากแครนเบอร์รี่มีสารสำคัญ Proanthocyanidins ซึ่งสามารถช่วยลดการอักเสบได้ดี
2. ช่วยลดแบคทีเรียที่อยู่ในปัสสาวะและป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย ด้วยสรรพคุณของสารสกัดจากแครนเบอร์รี่ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้
3. ช่วยรักษาการติดเชื้อในท่อปัสสาวะและกำจัดกลิ่นปัสสาวะอีกด้วย
4. ช่วยป้องกันการติดเชื้อราได้ดีกว่าการใช้ยา เนื่องจากไม่ทำให้เชื้อนั้นดื้อยานั่นเอง
5. ช่วยลดการติดเชื้อในท่อทางเดินปัสสาวะของผู้หญิง เมื่อรับประทานจนหายเป็นปกติแล้ว หากยังรับประทานต่อยังช่วยป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้อีกด้วย
6. สารสกัดจากแครนเบอร์รี่จะมีสารพิเศษอย่างหนึ่งที่เข้าไปช่วยต้านการเกาะตัวของเชื้อแบคทีเรียกับเนื้อเยื่อในร่างกาย

การดื่มน้ำแครนเบอร์รี่แบบไม่ใส่น้ำตาลเป็นประจำทุกวัน โดยเลือกดื่มชนิดเข้มข้นวันละ 300 มิลลิลิตร
จะช่วยป้องกันการกลับมาเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบซ้ำได้ดี
แต่ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดมาจากแครนเบอร์รี่ จึงทำให้ง่ายต่อการรับประทานมากขึ้น
ทั้งนี้สำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่นั้น ควรพึงระมัดระวังในการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยเช่นกัน
หรืออาจจะปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยต่อสุขภาพของตนเอง