article
น้ำมันปลา คืออะไร

 

น้ำมันปลา คืออะไร


          เราต่างทราบกันดีว่า ปลา นั้นเป็นสัตว์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันที่ดี นับว่าเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ สำหรับการเลือกเนื้อสัตว์สักชนิดในการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพ อีกทั้งยังนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายกรรมวิธีไม่ว่าจะต้ม ทอด นึ่ง เผา รวมถึงอีก 1 วิธีการในการรับเอาสารอาหารและคุณประโยชน์ต่างๆ จากปลา นั่นคือการรับประทาน น้ำมันปลา


รู้จัก น้ำมันปลา


          น้ำมันปลา เป็นน้ำมันที่ได้จากกระบวนการสกัดส่วนต่างๆ ของปลา ได้แก่ ส่วนหัว เนื้อ หนังรวมถึงหาง โดยใช้ปลาทะเลน้ำลึกเขตหนาวเย็น อาทิเช่น ปลาแซลมอล ปลาแองโชวี่ ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า ซึ่งในน้ำมันปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันประเภทโอเมก้า-3 ประกอบด้วย
•  กรด EPA (Eicosapentanoic Acid) ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือด ลดไขมันเลว เพิ่มไขมันดี
•  กรด DHA (Docosahexanoic Acid) ช่วยบำรุงสมองและหัวใจ
ซึ่งทั้ง 2 ชนิดเป็นกรดไขมันที่จำเป็นทั้งสิ้นแต่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องอาศัยการรับประทานอาหารเท่านั้น


น้ำมันปลา กับ น้ำมันตับปลา ต่างกันอย่างไร


          หลายคนอาจจะสงสัยหรือสับสนว่าน้ำมันปลากับน้ำมันตับปลานั้นคือตัวเดียวกันหรือไม่ คำตอบคือ คนละชนิดกัน น้ำมันปลาสกัดมาจากหลายส่วนของปลาทะเลน้ำลึก อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ช่วยบำรุงสมอง หัวใจ ลดไขมันในเลือด ส่วนน้ำมันตับปลาสกัดจากส่วนตับเท่านั้น มีวิตามินเอและวิตามินดีสูง นิยมใช้ในเด็ก ช่วยในการทำให้เจริญอาหาร เสริมสร้างกระดูกและบำรุงร่างกายทั่วไป


โอเมก้า-3 ในน้ำมันปลาสำคัญกับร่างกายอย่างไร


ตามที่กล่าวมาข้างต้นว่าน้ำมันปลานั้นอุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ซึ่งมีความสำคัญกับร่างกายดังต่อไปนี้
•  ป้องกันอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ
•  ป้องกันภาวะหลอดเลือดแดงแข็งสาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือดฉับพลัน
•  ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ รวมถึงโรคเกี่ยวกับสมองอื่นๆ
•  ลดระดับคอเลสเตอรอลและความดัน
•  ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม
•  ลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดศีรษะในโรคไมเกรน
•  ลดอาการภูมิแพ้
•  บรรเทาอาการคันของโรคสะเก็ดเงิน
•  เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท
•  ช่วยในการมองเห็น
•  ช่วยบำรุงผิว ผม เล็บให้มีสุขภาพดี


          เรียกได้ว่า น้ำมันปลา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการบำรุงร่างกาย รวมถึงคนที่ไม่ชอบรับประทานปลา เพื่อเป็นการชดเชยสารอาหารที่ร่างกายไม่ได้รับ ซึ่งนอกจากจะรับประทานน้ำมันปลาในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว การเลือกซื้อน้ำมันปลาก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน ควรตรวจดูปริมาณของกรด EPA และ DHA ที่เขียนไว้ข้างขวด ยิ่งมีสัดส่วนของไขมันสองชนิดนี้สูงก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพ อีกทั้งควรเลือกซื้อน้ำมันปลาที่ได้มาตรฐานเพื่อเป็นการรับรองคุณภาพว่าไม่มีสารแปลกปลอมหรือสิ่งปนเปื้อนใดๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

 

Share this Article