article
น้ำมันปลา (Fish Oil) กับการปรับสมดุลระดับไตรกลีเซอไรด์

 

น้ำมันปลา (Fish Oil) กับการปรับสมดุลระดับไตรกลีเซอไรด์

          ปัจจุบันอาหารมีหลากหลายชนิดมากมายให้เลือกรับประทานกันได้ตามใจชอบ แต่ไม่ใช่ว่าอาหารทุกอย่างจะถูกใจร่างกายของเรามากนัก เพราะหากอาหารที่ถูกนำมาแปรรูปผ่านการทอด การปิ้ง ย่าง ที่อบอวลไปด้วยน้ำมันมากมายที่หลายคนรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย และได้ของแถมเป็นไขมันตามมา ซึ่งหายคนโดยเฉพาะเพศหญิงอย่างเราที่มักจะเป็นกังวลเรื่องน้ำหนักตัวที่มากขึ้น ส่งผลให้รูปร่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งน่าเป็นกังวลหลักๆ เพราะผลที่ตามมาจากการบริโภคอาหารจำพวกของ มัน ปิ้งย่าง หรืออาหารที่อุดมไปด้วยไขมันมากเกินไปส่งผลให้ร่างกายสังเคราะห์ไขมันไม่ดีเพิ่มมากขึ้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไตรกลีเซอไรด์

 

          ในการตรวจสุขภาพ มักมีผลของไตรกลีเซอไรด์แจ้งเอาไว้ โดยค่าที่เหมาะสมของระดับไตรกลีเซอไรด์ไม่ควรเกิน 150 มิลลิกรัม / เดซิลิตร  โดยหากสูงกว่านี้ถือว่าระดับไตรกลีเซอไรด์เริ่มสูง และหากมีค่าเกินกว่า 200 มิลลิกรัม / เดซิลิตรขึ้นไป ถือว่าระดับไตรกลีเซอไรด์สูง ถึงสูงมาก ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมองในอนาคตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี

 

          น้ำมันปลา เป็นหนึ่งในสิ่งที่ได้รับการยอมรับว่ามีส่วนช่วยในการควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ เพราะในน้ำมันปลามีส่วนประกอบของกรดไขมัน EPA ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเส้นเลือด เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด และลดความเสี่ยงในการเกิดการอุดตันของหลอดเลือด ส่งผลให้ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจในอนาคตได้ และนี่จึงเป็นหนึ่งในประโยชน์สำคัญที่ได้รับจากการทานน้ำมันปลา แต่สำหรับผู้ที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงมากควรดูแลตัวเอง ควบคู่ไปกับการรักษาอย่างถูกวิธีจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่อสุขภาพในอนาคต ดังนั้นหากต้องการมีสุขภาพที่ดี การเลือกรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ควรตามใจปาก ลำบากร่างกายในอนาคต

Share this Article