มหัศจรรย์ของ “จินเซนโนไซด์” ที่ได้จากโสมขาว (Ginseng Extract)

                วิถีของโลกตะวันออก เราใช้ยาสมุนไพรมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งมักจะเป็นพืชที่หาได้ง่ายๆ ในท้องถิ่นและมีสรรพคุณบางอย่างที่ดีต่อร่างกาย สมุนไพรบางตัวก็เอามาใช้ในรูปแบบของอาหาร บางตัวก็ถูกเอามาใช้ในรูปแบบของตัวยา และหนึ่งในสมุนไพรสารพัดประโยชน์ตลอดกาลที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายก็คือโสมนั่นเอง เราอาจจะรู้จักแค่ว่าสมุนไพรหน้าตาแบบไหนที่เรียกว่าโสม แต่อันที่จริงแล้วโสมยังแบ่งออกอีกเป็นหลายชนิด เช่น โสมแดง โสมขาว รวมทั้งแหล่งผลิตคนละแห่งก็ทำให้สรรพคุณของโสมแตกต่างกันไปด้วย เช่น โสมเอเชียจะเป็นยาธาตุร้อน ในขณะที่โสมอเมริกาจะเป็นยาธาตุเย็น แต่มีสิ่งหนึ่งที่โสมทุกสายพันธุ์จะมีอยู่นั่นก็คือ “จินเซนโนไซด์”

                จินเซนโนไซด์ (Ginsenoside) เป็นอนุพันธุ์ธรรมชาติที่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ซึ่งจะมีโครงสร้างทางเคมี ปริมาณสัดส่วน และคุณสมบัติแตกต่างกันเล็กน้อยในโสมแต่ละสายพันธุ์ สารตัวนี้เป็นสารมหัศจรรย์ที่เกิดจากกระบวนการป้องกันตัวเองของโสมจากบรรดาแมลงศัตรูพืช คล้ายๆ กับการที่พืชบางชนิดที่มีกลิ่นรุนแรงนั่นเอง ที่น่าสนใจก็คือสารจินเซนโนไซด์ตัวนี้ จะมีผลต่อระบบประสาทของมนุษย์โดยตรง ช่วยให้สมองทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดความอ่อนล้าจากการทำงานหรือคิดวิเคราะห์ต่างๆ ลงได้ ป้องกันสภาวะสมองเสื่อม และยับยั้งอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปทำลายเซลล์สมอง สารจินเซนโนไซด์จึงได้รับความนิยมอย่างมากในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อบำรุงสมองต่างๆ

                ความพิเศษของจินเซนโนไซด์ไม่ได้จบลงเพียงแค่การดูแลส่วนของสมองและระบบประสาทเท่านั้น ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ต่อต้านอาการอักเสบของอวัยวะภายใน ลดภูมิแพ้ ลดความดันโลหิตและยังควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงมีการนำสารสกัดไปใช้ในวงการแพทย์ค่อนข้างมากเช่น ใช้สำหรับฟื้นฟูผู้ป่วย ใช้สำหรับดูแลระดับน้ำตาลในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน เป็นต้น แต่ด้วยความที่โสมเป็นสมุนไพรฤทธิ์แรง และจินเซนโนไซด์ที่มีโครงสร้างต่างกันจะมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป การนำไปใช้งานจึงต้องดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเสมอ รวมทั้งต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสม   

                แม้ในปัจจุบันเราจะค้นพบว่าสารจินเซนโนไซด์มีประโยชน์ที่สามารถนำมาใช้ได้มาก แต่ก็ยังเชื่อว่าสารมหัศจรรย์ตัวนี้ยังคงมีความลับที่ซ่อนอยู่อีกไม่น้อย ความพิเศษที่มีเฉพาะสารบริเวณราก หรือความพิเศษที่มีเฉพาะสารบริเวณหัวโสม ก็ต้องรอดูว่าจะนำไปใช้ให้เต็มประสิทธิภาพได้อย่างไร รวมไปถึงสารตัวอื่นๆ ในโสมที่ยังไม่เคยถูกเอามาใช้ด้วยเช่นกัน