สารสกัดจากโสมดีต่อวัยทองอย่างไร
อาการน่ารำคาญ เช่น ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด วิตกกังวล อาการซึมเศร้า ช่องคลอดแห้ง น้ำหนักเพิ่มขึ้น นอนไม่หลับและผมบางมักจะมาพร้อมกับวัยหมดประจำเดือน ที่สำคัญคือ ริ้วรอยเหี่ยวย่นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จะดูแลตัวเองอย่างไรสารสกัดจากโสมมีคำตอบ
สารสกัดจากโสมเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
สารสกัดจากโสมจะมีสารสำคัญ คือ Ginsenosides ที่ออกฤทธิ์เช่นเดียวกับฮอร์โมนเอสโตรเจน ของผู้หญิง จึงช่วยบรรเทาอาการของวัยหมดประจำเดือน นอกจากนี้ยังมีรายงานการวิจัยของที่สามารถยืนยันได้ว่า ฤทธิ์ของโสมช่วยให้การนอนหลับดีขึ้นในวัยทอง อาการปวดหัว ปวดข้อ ปวดเมื่อยและร่างกายอ่อนล้าเพลีย ก็จะค่อยๆ หายไปส่งผลให้คุณภาพวัยทองดีขึ้นสดชื่น กระปี้กะเป่า สารสกัดจากโสมจึงส่งผลดีต่อผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยทอง
เข้าใจวัยทอง
วัยทองวัยธรรมดาที่ผู้หญิงทุกคนต้องเจอ เมื่อเข้าสู่วัยทองผู้หญิงมีผลกระทบกับร่างกายหลายอย่างทั้งด้านอารมณ์ ภาวะจิตใจ เมื่อฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไป ร่างกายและสภาวะจิตใจก็เปลี่ยนไปด้วย หงุดหงิดเหวี่ยงวีน โดยไม่มีเหตุผล เพราะการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเน และโปรเสเตอโรนในรังไข่ลดลง การดูแลตนเองอย่างละเอียดรอบคอบ เมื่ออายุย่างเข้า 40 ปี จึงสำคัญและมีความเป็นต่อร่างกาย เพราะนอกจากร่างกาจะแข็งแรงแล้ว ยังทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ต้องกังวลกับผิวพรรณที่เปลี่ยนแปลงไป
สมุนไพรอายุวัฒนะ เพื่อผู้หญิงวัยทอง ประโยชน์ของโสมที่ได้รับการวิจัยมาอย่างดีอีกประการหนึ่ง คือ ความสามารถในการเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ในอดีตรากลำต้นและใบโสมมีการใช้เพื่อรักษาสมดุลของภูมิคุ้มกันและเพิ่มความต้านทานต่อการเจ็บป่วยหรือการติดเชื้อต่างๆ จากงานวิจัยอาหารเสริมด้วยสารสกัดจากโสมมีอิทธิพลอย่างมากต่อการดูแลสุขภาพในด้านอื่นๆ อีกด้วย
ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วย
โสมช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายทำให้ร่างกายต้านทานต่อโรคและไม่เป็นโรคแทรกซ้อน ทำให้สามารถต้านทานต่อโรคและอันตรายจากรังสีและสารพิษต่างๆ จึงส่งผลต่อการเพิ่มสมรรถภาพร่างกายและฟื้นฟูร่างกายจากอาการป่วยได้อย่างรวดเร็ว
รับมือวัยทองง่ายนิดเดียว
- อาหารที่ช่วยให้คนวัยทองมีสุขภาพที่ดี ได้แก่ นมไขมันต่ำ เพื่อช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและป้องกันโรคกระดูกพรุน
- ลดการรับประทานอาหารหวาน มัน เค็ม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรคความดัน เบาหวาน
- น้ำเปล่า เพื่อช่วยไม่ให้ผิวพรรณแห้งเหี่ยวทุกคนควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- แปะก๊วย เพื่อการบำรุงสมองและเพิ่มความจำ
- ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ผู้ที่ควรระมัดระวังการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทน
- ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม
Share this Article