article
แอล-คาร์นิทีน (L-carnitine) เหมาะกับคนวัยใด

 

แอล-คาร์นิทีน (L-carnitine) เหมาะกับคนวัยใด

                สารสกัดแอล-คาร์นิทีนหลาย ๆ คนคงทราบถึงประโยชน์ของสารสกัดชนิดนี้ ที่มีต่อร่างกายแต่สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่า แอล-คาร์นิทีนนั้นคืออะไร สำคัญแค่ไหน วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับ แอล-คาร์นิทีน และ สารสกัดแอล-คาร์นิทีน มาแนะนำกัน 

 

                สารสกัดแอล-คาร์นิทีน เป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของคนเรา ร่างกายของเราต้องการสารตัวนี้เพื่อช่วยในระบบการเผาผลาญเปลี่ยนไขมันสะสมให้เป็นพลังงาน การผลิตสารแอล-คาร์นิทีนในร่างกายมีกระบวนการผลิตจากกรดบางชนิดที่มีในร่างกาย และการผลิตสารแอล-คาร์นิทีนนั้นเกิดขึ้นที่อวัยวะ ตับและไตของเรา เมื่อร่างกายผลิตสารแอล-คาร์นิทีนเป็นผลสำเร็จจะนำไปเก็บเอาไว้ในส่วนของกล้ามเนื้อ จากนั้นเมื่อร่างกายมีการใช้พลังงานเกิดขึ้น เช่นการออกกำลังกาย หรือ การเคลื่อนไหวร่างกายแบบหนัก ๆ ร่างกายจะดึง แอล-คาร์นิทีนตัวนี้ออกมาใช้ เพื่อเป็นส่วนช่วยเปลี่ยนไขมันที่สะสมตามส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพกที่เป็นส่วนเกินออกมาเปลี่ยนให้เป็นพลังงานและกล้ามเนื้อ

 

                การทาน สารสกัดแอล-คาร์นิทีน ไม่ใช่ว่าคนทุกวัยและทุกคน จะเหมาะกับการทานได้ คนในวัยรุ่น วัยทำงาน หรือวัยผู้ใหญ่ และคนในวัยสูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่มีปัญหาสุขภาพและโรคประจำตัว คือกลุ่มคนที่สามารถรับประทาน สารสกัดแอล-คาร์นิทีนได้ แต่กลุ่มคนที่มีปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยว กับไตและโรคที่เกี่ยวกับตับไม่ควรรับประทาน สารสกัดแอล-คาร์นิทีน อีกกลุ่มคนที่ไม่เหมาะจะรับประทาน สารแอล-คาร์นิทีนก็คือ กลุ่มสตรีมีครรภ์และเด็ก ๆ รวมถึงคนในวัยสูงอายุที่มีโรคประจำตัวต้องปรึกษาแพทย์ ในการรับประทาน สารสกัดแอล-คาร์นิทีน

 

                ส่วนคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำและต้องการจะเสริมสร้างกล้ามเนื้อนั้น สารสกัดแอล-คาร์นิทีน เหมาะอย่างยิ่ง เพราะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายนำไขมันมาสร้างเป็นกล้ามเนื้อได้ง่ายขึ้นและทำให้สามารถออกกำลังกายได้นานและมากขึ้น โดยไม่ทำให้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือเมื่อยน้อยลงได้ ในกลุ่มของคนที่ต้องการลดความอ้วน สารสกัดแอล-คาร์นิทีน เป็นตัวช่วยที่ดี ที่จะทำให้ลดสัดส่วนเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นกล้ามเนื้อโดยเฉพาะไขมันที่สะสมอยู่เป็นเวลานาน ที่สำคัญก็คือ สารสกัดแอล-คาร์นิทีน ไม่มีผลอันตรายข้างเคียงใด ๆ ในการบริโภคและไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยาโยโย่เอฟเฟ็คอีกด้วย

 

 

 

Share this Article