ไลโคพีน (Lycopene) สารสกัดจากมะเขือเทศ อีกหนึ่งคุณค่าที่มาพร้อมสารอาหารที่มีประโยชน์

                คำกล่าวที่ว่ามะเขือเทศรับประทานแล้วผิวจะสวย เป็นสิ่งที่คนทั่วไปรู้กันดีและได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ มะเขือเทศเป็นผักที่ได้รับการกล่าวขานว่าดีต่อผิวพรรณและความงาม แต่น้อยคนนักที่จะรู้อย่างแท้จริงถึงคุณค่าและประโยชน์ของมะเขือเทศ ที่มาของสรรพคุณเกิดมาจากอะไร วันนี้เราจึงข้อมูลดีๆ มาเล่าสู่กันฟัง

                ไลโคพีน สารสกัดจากมะเขือเทศ มีส่วนประกอบของสาร แคโรทีนอยด์ ซึ่งสารนี้เป็นสารชนิดเดียว กับเบต้าแคโรทีนที่พบมากในผัก ผลไม้สีส้ม สีแดง อย่างแครอท บีทรูท แต่เจ้าแคโรทีนอยด์นั้นมีคุณค่าของวิตามินและสารมีประโยชน์ปริมาณมากกว่าในเบต้าแคโรทีนถึง 2 เท่า ซึ่งจะพบได้มากที่สุดในมะเขือเทศนี่เอง

ประโยชน์ของมะเขือเทศในด้านความงาม

                ไลโคพีน สารสกัดจากมะเขือเทศ มีอยู่ในมะเขือเทศที่เรากินทุกวันจะเข้าไปสู่ใต้ชั้นผิวช่วยปกป้องผิวพรรณจากรังสีที่ทำร้ายผิวได้แก่ รังสียูวีเอ และรังสียูวีบี รังสีตัวร้ายนี้ทำให้ผิวหมองคล้ำ และยังทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่าย สารไลโคพีนที่อยู่ในผลมะเขือเทศจะเข้าไปปกป้องการทำลายของเซลล์เม็ดสีผิวที่ผิดปกติ เมื่อเรารับประทานมะเขือเทศเข้าไปจึงทำให้ผิวขาวใสกระจ่างขึ้น ไลโคพีนในมะเขือเทศยังช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระที่มาของริ้วรอย และความเหี่ยวแห้งกร้านของผิวด้วย เสริมให้ผิวมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นดี ยับยั้งสาเหตุของการสูญเสียการสร้างคอลลาเจนในผิว

ประโยชน์ของมะเขือเทศต่อสุขภาพ

                มะเขือเทศยังมีประโยชน์ในด้านสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย ไลโคพีน สารสกัดจากมะเขือเทศช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง ทั้งมะเร็งผิวหนัง มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งตับแต่การรับประทานมะเขือเทศให้ได้ปริมาณมากพอในที่จะมีผลต่อผิวพรรณ และสุขภาพร่างกายอย่างจริงจัง และเห็นผลจะต้องรับประทานมะเขือเทศให้ได้สารไลโคพีนอย่างน้อย 5-20 กรัมต่อวันทุกวัน แต่ในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ของคนเรา บางครั้งก็ไม่สามารถเลือกรับประทานมะเขือเทศได้ในปริมาณดังกล่าวสม่ำเสมอ บางคนก็ไม่ชอบรับประทานผักโดยเฉพาะมะเขือเทศ วิธีที่จะทำให้ได้รับ สารไลโคพีนจากมะเขือเทศ อีกวิธีก็คือการเลือกรับประทานอาหารเสริมที่เป็น ไลโคพีน สารสกัดจากมะเขือเทศ แต่การรับประทานมะเขือเทศหรือสารสกัดไลโคพีนจากมะเขือเทศ จะต้องรับประทานในปริมาณพอเหมาะ ไม่มากจนเกินไปและควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเพื่อให้ได้คุณประโยชน์ที่ดีที่สุดนั่นเอง