ป้องกันอัลไซเมอร์ด้วยไลโคพีน

             เชื่อว่าหลายท่านคงคุ้นเคยกับชื่อโรคอัลไซเมอร์เป็นอย่างดี แต่รู้ไหมว่าประเทศไทยของเรามีสถิติผู้ป่วยด้วยโรคนี้ถึง 2-5% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ในผู้ป่วยอัลไซเมอร์บางรายก็แสดงอาการอ่อนๆ แต่ในรายที่รุนแรง อาจเกิดอาการหลงลืมตัวเอง ลืมคนรอบข้าง แม้กระทั่งลืมทางกลับบ้านอันเป็นเหตุให้หายตัวจากบ้านอย่างที่เราพบเห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ อีกทั้งยังเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่นอาหารที่มีสารไลโคพีนเป็นส่วนประกอบ

             ไลโคพีน (Lycopene) เป็นสารสำคัญในกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่ละลายได้ดีในไขมัน พบมากในผักผลไม้ที่มีสีแดงเข้ม เช่น มะเขือเทศ แตงโม ฟักข้าว แครอทและมะละกอ เป็นต้น อีกทั้งยังมีการวิจัยว่าในมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนหรือการแปรรูป จะมีไลโคพีนมากกว่ามะเขือเทศสดถึง 2 เท่า นอกจากนี้ไลโคพีนจากมะเขือเทศที่ผ่านการแปรรูป จะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมง่ายกว่าอีกด้วย ร่างกายของเราไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคพีนขึ้นเองตามธรรมชาติได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีสารไลโคพีนไม่ว่าจะเป็นจากมะเขือเทศสดหรือในรูปแบบอาหารเสริม จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลสุขภาพ

             ไลโคพีนมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เป็นอาหารสมองที่สำคัญ และยังเป็นตัวช่วยในการต้านความเสื่อมของเซลล์สมองอันเป็นที่มาของโรคอัลไซเมอร์ ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม ป้องกันภาวะความจำสั้นอีกด้วย หากร่างกายขาดไลโคพีนหรือสารต้านอนุมูลอิสระจากไลโคพีน เมื่ออายุมากขึ้นเซลล์สมองก็จะเริ่มเสื่อมลงและถูกทำลายจากอนุมูลอิสระต่างๆ การเสื่อมของเซลล์สมองนี้ไม่สามารถแก้ไขหรือรักษาได้ หากปล่อยไว้โดยที่ไม่ป้องกันจะเป็นสาเหตุให้เริ่มหลงๆ ลืมๆ มีกระบวนการคิดช้าลง ตอบสนองได้ช้า หากลุกลามจนรุนแรงขึ้นก็จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ในที่สุด อีกทั้งการที่ร่างกายไม่สามารถสร้างไลโคพีนเองได้ การรับประทานไลโคพีนเป็นประจำจึงควรปฏิบัติหากต้องการมีสุขภาพที่ดี

             แม้ว่าโรคอัลไซเมอร์จะไม่สามารถรักษาได้และเป็นโรคร้ายแรงที่ใครหลายคนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นกับตนเองรวมถึงคนที่เรารัก แต่การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นตรวจเช็คสุขภาพกับแพทย์เป็นประจำ รวมทั้งรับประทานอาหารเสริมที่มีสารสกัดไลโคพีนเพื่อป้องกันการเสื่อมของเซลล์สมอง เป็นการเติมเกราะป้องกันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้คุณและคนที่คุณรักห่างไกลจากอัลไซเมอร์ได้แล้ว