เคล็ด(ไม่)ลับจากธรรมชาติ...เพิ่มผิวสวย...ด้วยทับทิม

ยุคนี้ใคร ๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแดดประเทศไทยร้อนมาก กลายเป็นมีแค่สองฤดู คือ ร้อน กับ ร้อนมาก!!

ความเป็นจริงแล้วไม่ได้ร้อนแค่ประเทศไทย แต่ร้อนทั้งโลกก็ว่าได้  เพราะภาวะโลกร้อนไม่เคยปราณีใคร

และนอกจากอุณภูมิที่ทำให้เรารับรู้ได้ว่าร้อน ก็ยังมีรังสีต่าง ๆ ที่เรามองไม่เห็นคอยทำร้ายผิวของเรา ใครจะรู้ว่านอกจากครีมกันแดดแล้ว

เราสามารถปกป้องผิวให้สู้กับรังสีอัลตร้าไวโอเลตได้จากภายในสู่ภายนอก ด้วย...ทับทิม

ทับทิมผลไม้ชื่อเหมือนอัญมณี เพราะมีสีแดงเหมือนกัน ชาวจีนนิยมปลูกไว้หน้าบ้านเพราะเป็นไม้มงคล

สัญลักษณ์แห่งความเจริญงอกงามที่นิยมมอบให้แก่คู่บ่าวสาวในวันมงคล จริง ๆ แล้วเป็นกุศโลบายที่คนโบราณฝากไว้ต่างหาก

เพราะการปลูกทับทิมไว้หน้าบ้านก็เหมือนเป็นยาประจำบ้านนั่นเอง เมื่อนำประกอบการปรุงยาจีนที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จากทั้งต้น

หรือแค่กินผลสด ๆ ก็มีประโยชน์มหาศาลแล้ว...ว่าแล้วอย่างที่กล่าวไว้แต่ต้นว่า

ทับทิมนั้นช่วยป้องกันผิวจากรังสีอัลตร้าไวโอเลตอย่างไรมาดูข้อมูลนี้กันดีกว่า

แน่นอนว่าทับทิมนั้นมี กรดจำพวกเอลลาจิค เอสิดช่วยปกป้องผิวเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมาก และ โพลีฟีน

ซึ่งช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ผิว ยับยั้งการเกิดเซลล์เม็ดสี ยังไม่หมดเพียงเท่านี้

ทับทิมยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ในระดับลึกส่งผลให้ผิวจะค่อย ๆ สว่าง กระจ่างใสขึ้น

เพราะมีการผลัดเซลล์ผิวใหม่ และแน่นอนว่าผิวแลดูอ่อนเยาว์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะมีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบ

ช่วยให้พวกสิวอักเสบยุบลงเร็วกว่าเดิมหลายเท่า และไม่ทิ้งร่อยรอยไว้  ในแง่ของสารอาหารจากทับทิมไม่ได้ช่วยบำรุงผิวเพียงอย่างเดียว

เพราะยังส่งผลต่อการบำรุงของเลือดซึ่งช่วยบรรเทาเรื่อง โลหิตจาง ลดภาวะการสะสมไขมันในผนังเส้นเลือด

แถมยังช่วยปรับฮอร์โมนในเพศหญิง (ช่วยเรื่องฮอร์โมนไม่ปกติช่วงมีประจำเดือน)

ทับทิมยังช่วยบำรุงตับ มีฤทธิ์ป้องกันการเป็นพิษต่อตับ และยับยั้งเซลล์มะเร็ง

นอกไปจากนี้ยังส่งผลต่อการฟอกเลือด ช่วยล้างสารพิษโลหะหนัก สำหรับผู้ป่วยโรคไตอีกด้วย

ถึงแม้ว่าประโยชน์ของทับทิมจะมากมายขนาดนี้ คนก็ยังไม่นิยมที่จะรับประทานผลทับทิมสด ๆ

เรียกได้ว่าพลาดขุมทรัพย์ที่ดีของสารอาหารที่สำคัญและมีประโยชน์อย่างมากแล้ว  แต่หากใครที่อยากได้รับวิตามินและสารอาหารที่ดี

เพื่อบำรุงร่างกายแล้วละก็ สารสกัดจากทับทิมในรูปแบบแคปซูลก็ถือว่าเป็นทางออกที่ดีอีกหนึ่งทาง เพราะในปัจจุบันในท้องตลาดมีน้ำทับทิมผสม

ซึ่งจะมีส่วนผสมของน้ำตาลค่อนข้างสูง การรับประทานน้ำทับทิมที่ผสมน้ำตาลถือว่าไม่ดีเท่าที่ควร

แต่การรับประทานทับทิมสกัดในรูปแบบแคปซูลในปริมานที่เพียงพอนั้นจะส่งผลดีและมีประสิทธิภาพต่อร่างกายมากที่สุด