เสริมข้อเข่าและบำรุงกระดูกให้แข็งแรงด้วย “คอลลาเจนเปปไทด์”

           “คอลลาเจนเปปไทด์” คือ คอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยทำให้โมเลกุลเล็กลง สามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่ายกว่าคอลลาเจนปกติ ซึ่งโดยปกติแล้วส่วนต่าง ๆ ในร่างกายของเรา เช่น กระดูก เส้นเอ็น ข้อต่อ เนื้อเยื่อ รวมไปถึงผิวหนังของเราจะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบและทำหน้าที่เสริมความแข็งแรง แต่คอลลาเจนนี้จะเริ่มผลิตน้อยลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นไปจนถึงหยุดการผลิตในที่สุด

“คอลลาเจนเปปไทด์” กับการบำรุงกระดูกและข้อเข่า
           หลายคนอาจเข้าใจว่าประโยชน์ของ คอลลาเจน คือช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง แต่แท้จริงแล้ว อีก 1 คุณประโยชน์สำคัญของคอลลาเจนคือช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมและลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนได้

           “คอลลาเจนเปปไทด์” มีส่วนช่วยบำรุงกระดูก เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก บรรเทาอาการปวดและอักเสบ บรรเทาอาการข้อเสื่อมต่าง ๆ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้เนื้อเยื่อบริเวณข้อต่อ โดยคอลลาเจนจะทำหน้าที่เข้าไปรองตามข้อต่อเพื่อลดการเสียดสีกันระหว่างกระดูกและช่วยเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงตามข้อต่อต่าง ๆ ทำให้มีส่วนช่วยชะลอและลดความเสี่ยงการเกิดโรคเกี่ยวกับข้อต่าง ๆ ได้นั่นเอง ซึ่งผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมส่วนมาก จะมีอายุประมาณ 45 ขึ้นไป และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย นั่นเป็นเพราะคอลลาเจนของผู้หญิงจะเริ่มหยุดการผลิตไวกว่าผู้ชาย และเมื่ออายุยิ่งมาก คอลลาเจนจะเริ่มผลิตได้น้อยลงเรื่อย ๆ และไม่สามารถผลิตเพิ่มขึ้นมาได้ เราจึงควรรับประทานคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ

“คอลลาเจนเปปไทด์” กับการบำรุงผิว
           ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมหลายคนที่รับประทานคอลลาเจนเพื่อบรรเทาอาการพบว่าหลังจากที่รับประทาน “คอลลาเจนเปปไทด์” เข้าสู่ร่างกาย นอกจากอาการโรคข้อเข่าเสื่อมและอาการอักเสบตามข้อต่อจะดีขึ้นแล้ว ผิวพรรณยังดีขึ้น สดใสและเปล่งปลั่งขึ้นกว่าเดิม นั่นเป็นเพราะ “คอลลาเจนเปปไทด์” มีส่วนช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ฝ้า กระ จุดด่างดำลดลง นอกจากนี้ “คอลลาเจนเปปไทด์” ยังมีส่วนช่วยบำรุงเส้นผมและเล็บให้แข็งแรง ไม่แห้งหรือเปราะหักง่ายได้อีกด้วย

5 อาหารแหล่งรวมคอลลาเจน

1.ถั่วเหลือง
ถั่วเหลือง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า ไอโซฟลาโวน ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างผิวให้กระชับ แข็งแรง มีส่วนช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย มีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและเพิ่มความหนาแน่นให้มวลกระดูก

2.ผักใบเขียว
ผักใบเขียว หลายคนอาจไม่รู้ว่าสามารถรับประทานคอลลาเจนได้จากผักใบเขียว ซึ่งแท้จริงแล้วผักใบเขียวมีส่วนช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้ดี นอกจากนี้ ในผักใบเขียวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระลูตินที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวให้เรียบเนียนและชะลอการเกิดริ้วรอย

3.เนื้อสัตว์
เนื้อสัตว์ทุกชนิด ล้วนอุดมไปด้วยคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนในเนื้อสัตว์จะมีปริมาณมากกว่าในพืชโดยเฉพาะเนื้อปลา ถือเป็นแหล่งรวมคอลลาเจนและโปรตีนชั้นดี มีแคลเซียมและธาตุเหล็กซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและผิวหนังให้แข็งแรง

4.ถั่วชนิดต่าง ๆ
ถั่ว ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งคอลลาเจนชั้นดี การรับประทานถั่วชนิดต่าง ๆ จะทำให้ร่างกายได้รับกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และยังมีส่วนช่วยเร่งการผลิตคอลลาเจนให้แก่ร่างกายได้อีกด้วย

5.ไข่ขาว
ไข่ขาว เป็นแหล่งกรดอะมิโนโปรลีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเส้นใยคอลลาเจน ทำให้คอลลาเจนมีความแข็งแรงมากขึ้น ถูกทำลายได้ยากขึ้น และยังช่วยให้คอลลาเจนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น