หมดปัญหาร่างกายอ่อนล้าด้วยจากสารสกัดจากโกจิเบอร์รี่ (Goji berry Extract)
ลองเช็คดูว่า คุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่ เช่น อาการเครียดจนนอนไม่หลับเลย รู้สึกนอนไม่พออยู่ตลอดเวลา หรือบางคนอาจมีอาการนอนหลับเต็มอิ่มแต่รู้สึกเหมือนไม่ได้นอน อาการที่รู้สึกเหนื่อยจนเหมือนหมดกำลังใจทำงาน อาการท้องอืด รู้สึกหิวตลอดเวลา หรือบางรายกลับไม่รู้สึกอยากกินอะไรเลย อาการที่รู้สึกเหนื่อยง่ายเหมือนจะหมดแรงทุกวัน หากคุณมีอาการเหล่านี้หมายความว่าร่างกายและจิตใจของคุณอ่อนล้ามาจนถึงขีดจำกัดแล้ว อาจมีสาเหตุมาจากปัญหาในชีวิตที่ต้องเจอทุกวัน ซึ่งถ้าคุณดันมาล้มป่วยเพราะความอ่อนล้าเหล่านี้อีก ก็ยิ่งกลายเป็นการเพิ่มเรื่องเครียดเข้าไปอีก คงถึงเวลาที่คุณจะต้องฟื้นฟูร่างกายและจิตใจอย่างจริงจัง ด้วยการอาศัยประโยชน์ของสารสกัดจากโกจิเบอร์รี่ เจ้าพืชผลเล็กมากประโยชน์จะช่วยเสริมกำลังกายได้อย่างไร มาดูกัน
มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม 500 เท่า โดยเป็นพืชที่มีวิตามินิซีสูงเป็นอันดับสอง รองจากคามูคามูเบอร์รี่ โดยวิตามินซีจะช่วยปกป้องเซลล์ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับ เส้นเอ็น และคอลลาเจน ก็มีผลโดยตรงจากปริมาณวิตามินซีในร่างกายด้วย วิตามินซียังมีฤทธิ์ในการเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ดี ช่วยป้องกันการทำลายเซลจากอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี คุณสามารถสร้างร่างกายที่สดใสและสดชื่นจากโกจิเบอร์รี่ โดยไม่ต้องทนกับความอ่อนล้าอีกต่อไป
มีสารโพลี่แซคคาไรด์ 4 ชนิด : LBP-1, LBP-2, LBP-3, LBP-4 ที่ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในสภาวะสมดุลดี ช่วยปรับความดันโลหิตให้ปกติ และช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่ถูกทำลายจากสารเคมีหรือรังสีได้ ช่วยให้ร่างกายของคุณกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
ประกอบด้วยกรดอะมิโนถึง 19 ชนิด โดยถือเป็นเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างร่างกาย โดยกรดอะมิโนจัดอยู่ในกลุ่มของสารอาหารที่ให้พลังงาน ซึ่งกรดอะมิโน คือหน่วยที่เล็กที่สุดของโปรตีนที่ถูกย่อยแล้วภายหลังจากที่เรารับประทานอาหารประเภทโปรตีนเข้าไป ร่างกายจะย่อยโปรตีนเหล่านั้นให้กลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่เรียกว่า กรดอะมิโน ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อนำไปใช้ในร่างกาย การที่ร่างกายของคุณเหนื่อยง่ายอาจเนื่องมาจากการขาดกรดอะมิโนที่จะเป็นเหล่านี้ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามการฟื้นฟูสุขภาพให้กลับมาแข็งแรงสดใส ก็ต้องอาศัยการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องด้วย เช่น นอนให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวัน และนอนให้เป็นเวลา ตื่นให้เป็นเวลา เพื่อการทำงานของร่างกายที่เป็นปกติ หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง เพราะอาหารประเภทนี้ย่อยยากอาจทำให้นอนไม่หลับได้ รับประทานผักและผลไม้ให้ได้ทุกมื้อ ดื่มน้ำให้ได้ประมาณ 1.5 ลิตรต่อวัน ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ และที่สำคัญคือการอยู่ให้ห่างจากเรื่องเครียดทุกชนิด พยายามมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ เพื่อสุขภาพใจที่สดใส และสุขภาพกายที่แข็งแรง
Share this Article