สร้างภูมิต้านทานโรคด้วยสารสกัดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่ (Acerola Cherry)

                อย่างที่เราได้ทราบกันดีอยู่ว่าปัจจุบันเชื้อโรคสายพันธุ์ต่าง ๆ ได้มีการพัฒนาความรุนแรงขึ้นอย่างมาก สังเกตได้จากเมื่อเราเจ็บป่วยระยะเวลากว่าจะหายจากโรคค่อนข้างนาน แถมอาการยังรุนแรงกว่าเมื่อก่อนมากด้วย เช่นโรคไข้หวัดที่เกิดจากไวรัส จากไข้หวัดที่สมัยก่อนเป็นแค่ 3-7 วันก็หาย มีอาการอย่างมากก็เพียงตัวร้อนวันสองวัน จาม ไอ คัดจมูกมีน้ำมูก ปัจจุบันไวรัสได้พัฒนาสายพันธุ์ของมันขึ้น ทำให้ตัวมันแข็งแรงทนต่อสภาพรอบตัว ทนต่อฤทธิ์ของยา ไวรัสไข้หวัดบางชนิดเมื่อร่างกายรับเชื้อเข้าไปเพียงวันเดียวผู้ป่วยบางรายถึงกับเสียชีวิตโดยแทบไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ในเมื่อรอบตัวเรามีเชื้อโรคร้ายปะปนในอากาศมากมาย การใช้ชีวิตทุก ๆ วันโดยไม่เอาใจใส่รักษาสุขภาพเห็นจะไม่ได้อีกต่อไป

                เมื่อจะสู้กับเชื้อโรค ร่างกายจำเป็นต้องมีความแข็งแรงขึ้นอย่างมาก ต้องมีเกราะป้องกันเชื้อโรคหรือภูมิต้านทานโรคที่ดี เราไม่สามารถทราบได้ว่าเมื่อไหร่ที่เชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งไวรัส แบคทีเรียจะเข้ามาสู่ร่างกายเรา เพราะเรามองเชื้อโรคเหล่านั้นไม่เห็นด้วยตาเปล่า การสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงในร่างกายจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราปลอดภัยจากโรค ด้วยการรับประทานอาหารที่มีภูมิคุ้มกันสูง อาหารที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกายได้ดีที่สุดนั้นคืออาหารที่มีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบเข้มข้น วิตามินซีจะเข้าไปเสริมสร้างให้เม็ดเลือดขาวในร่างกายทำงานได้ดีในการจัดการกับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส แบคทีเรียหรือเชื้อโรคอื่น ๆ ช่วยป้องกันความผิดปกติของเซลล์ที่มีการจับตัวของอนุมูลอิสระ ก่อให้เกิดความอ่อนแอของร่างกาย วิตามินซีที่ได้จากผักผลไม้ตามธรรมชาติจะซึมซาบเข้าสู่ร่างกายและนำไปใช้ได้ดีที่สุด ดีกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ที่ผ่านกระบวนการขั้นตอนเคมีมาก ๆ ซึ่งได้แก่วิตามินซีจากผลไม้โดยตรงนั่นเอง คำถามก็คือ “แล้วเราจะต้องรับประทานผลไม้ให้ได้วิตามินซีมากแค่ไหนจึงจะเพียงพอในแต่ละวัน ”

                มีผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีวิตามินซีสูงมากนั่นก็คือ ผลอะเซโรล่าเชอร์รี่ ซึ่งมีวิตามินซีมากยิ่งกว่าส้มถึง 30-80 เท่าในปริมาณการรับประทานเท่ากัน สูงกว่าวิตามินซีในผักโขมและสตอเบอร์รี่ด้วย เราจึงไม่จำเป็นต้องรับประทานผลไม้จำนวนมาก ๆ เพื่อให้ได้วิตามินซี  ร่างกายเราสามารถดูดซึมปริมาณวิตามินซีบริสุทธิ์จากอะเซโรล่าเชอร์รี่ได้มากกว่าการดูดซึมจากวิตามินซีสังเคราะห์ถึง 1.6 เท่า เพราะนอกจากวิตามินซีเข้มข้นแล้ว ในอะเซโรล่าเชอร์รี่ยังมี แอนโธไซยานิน และ ฟลาโวนอยด์ สารสองตัวนี้มีส่วนสำคัญในกระบวนการดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายได้ดี อะโรล่าเชอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริการใต้ ที่ปัจจุบันเราสามารถหารับประทานได้ใน ในรูปแบบของสารสกัด อาหารเสริมต่าง ๆ นับได้ว่าอะเซโรล่าเชอร์รี่คือผลไม้ที่เป็นคำตอบสำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอย่างแท้จริง