สารสกัดจากอะเซโรล่า เชอร์รี่ (Acerola Cherry) แหล่งวิตามินซีที่ดีต่อร่างกาย
อะเซโรล่า เชอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพดี ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นความนิยมในการนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม
แหล่งสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย
อาจจะกล่าวได้ว่าเพียงแค่รับประทานผลอะเซโรล่า เชอร์รี่เป็นประจำทุกวัน จะช่วยยืดอายุให้ยืนยาวไปถึงสิบปี เพราะอะเซโรล่า เชอร์รี่เป็นแหล่งของสารอาหารที่จำเป็นต่อการดูแลร่างกายและสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นสารไฟโตนิวเทรียนท์ที่อยู่ในกลุ่มแอนโทไซยานิน และแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ได้รับการยอมรับแล้วว่า ช่วยยับยั้งและต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดเซลล์มะเร็งได้ดี
นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อันได้แก่ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส สังกะสี ทองแดง โซเดียม ซีลิเนียม หรือโพแทสเซียมที่มีปริมาณมากถึง 146 มิลลิกรัม เป็นต้น อีกทั้งยังมีปริมาณของไขมันอิ่มตัวต่ำและไม่มีคอเลสเตอรอลอีกด้วย
แหล่งวิตามินซีที่มีปริมาณสูง
สารอาหารสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่พบมากในผลอะเซโรล่า เชอร์รี่ก็คือ “วิตามินซี” โดยมีผลการวิจัยพบว่า อะเซโรล่า เชอร์รี่มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 30 – 80 เท่า เมื่อเปรียบเทียบในน้ำหนักที่เท่ากัน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่งที่สามารถช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระหรือมลภาวะต่างๆ ป้องกันเซลล์และอวัยวะไม่ให้เสื่อมสภาพ
สำหรับในด้านการดูแลผิวพรรณนั้น วิตามินซีในอะเซโรล่า เชอร์รี่จะช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อเนื้อเยื่อของผิวหนัง และยังช่วยป้องกันการสร้างเม็ดสีผิวที่มากผิดปกติ ทำให้ผิวพรรณขาวกระจ่างใส ไร้สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ
ด้วยเหตุนี้อะเซโรล่า เชอร์รี่จึงเป็นผลไม้ที่นิยมปลูกกันเป็นอุตสาหกรรม โดยนำมาผลิตในรูปแบบต่างๆ เช่น ชนิดเม็ด ชนิดน้ำ ชนิดผง ชนิดแคปซูล หรือชนิดน้ำผลไม้เพื่อให้ง่ายและสะดวกต่อการรับประทาน
ผลเสียของการขาดวิตามินซี
Share this Article