ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ง่ายๆด้วยสารสกัดจาก งาดำ (Black Sesame Extract)

        เคยสังเกตไหมว่าคนรอบตัว ส่วนใหญ่มักเสียชีวิตด้วยโรคที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยเลย นั่นก็คือ ‘ ม ะ เ ร็ ง ’ แค่ได้ยินชื่อก็ดูน่ากลัว ซึ่งเราทุกคนต่างภาวนาให้ในยามแก่เฒ่านั้นไม่เป็นโรคนี้เพราะนอกจากค่ารักษายังแพงแล้ว ยังต้องทนทุกข์ทรมานกับขั้นตอนวิธีการรักษาอีก แต่รู้ไหมว่าสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันเหล่านี้แหละที่เป็นปัจจัยเริ่มต้นของโรคมะเร็ง เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ, ดื่มสุราเป็นประจำ, ผู้ที่ตากแดดจัด, ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีรสเค็ม รสจัด ไขมันสูง และอาหารไหม้เกรียม หรือผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง

        จากวิจัยพบว่าภายในเมล็ดงาดำ มีสารสกัดที่ชื่อว่า “ เซซามิน ” ซึ่งมีส่วนช่วยยับยั้งเซลล์สลายกระดูกต้นกำเนิดของโรคข้อเสื่อม กระดูกพรุน และปกป้องเซลล์ประสาทต่าง ๆ ที่ยังดีอยู่ รวมไปถึง ฟื้นฟูเซลล์ประสาทที่เสื่อมสภาพสุดท้าย หรือที่เรารู้จักกันดีว่า “ โรคมะเร็ง ” แต่การรับประทานงาดำให้ได้ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดนั้นกลับกลายเป็นปัญหาหนักใจสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะว่าต้องเคี้ยวให้ละเอียด เพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึมสารต่าง ๆ จากงาดำได้ดี

        โดยการรับประทานงาดำที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุวัย คือ ผู้สูงอายุควรรับประทานวันละ 10 ช้อน วัยทำงานรับประทาน 3-4 ช้อน จึงจะเพียงพอต่อร่างกาย หรือหากไม่ทำอย่างนั้นก็สามารถนำงาดำมาเป็นส่วนประกอบในอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการนำงาดำไปโรยบนขนมปัง คุกกี้ธัญพืชที่เราทำเอง หรือแม้แต่เต้าหู้งาดำก็ย่อมได้ สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอาจจะกลับกลายเป็นการสร้างภาระเพิ่มมากขึ้นให้แก่เราก็ได้ เนื่องจากบุคคลที่อยู่ในวัยทำงานนั้นในชีวิตประจำวัน เวลาทุกวินาทีมีค่ามาก ทำให้ไม่มีเวลามาดูแลใส่ใจในตัวเอง อีกทั้งยังมีปัจจัยภายนอกจากสิ่งแวดล้อมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย อาทิ การตากแดดจ้า การรับประทานอาหาร ยา เครื่องดื่มหรืออื่น ๆ ที่มีสารมะเร็งปนเปื้องอยู่

        จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องหันมาดูแลปกป้องร่างกายของตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและหลีกเลี่ยงจากการเป็นโรคมะเร็ง โดยอาจจะหาตัวช่วยที่ทำให้เราต้องเสียเวลาเยอะในการดูแลตัวเอง แต่ได้ประสิทธิภาพเท่ากัน อย่างการรับประทานอาหารเสริมที่มีสรรพคุณช่วยลดความเสี่ยง ๆ ต่างที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาในยามที่เราแก่ตัวลง แถมจิตใจของเรายังแจ่มใสไม่เครียดเพราะไม่มีใส่ใจตัวเองให้มากเท่าที่ควรอีกด้วยนั่นเอง