ลดความเสี่ยง “โรคอัลไซเมอร์” ด้วยการรับประทาน “งาดำ”
“งาดำ” ธัญพืชเม็ดเล็ก ๆ แต่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์มหาศาล ถือเป็นอีก 1 ธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก ๆ งาดำ อุดมไปด้วยแร่ธาตุ สารอาหาร และวิตามินมากมาย เช่น วิตามินบี แคลเซียม โพแทสเซียม สังกะสี เหล็ก แมกนีเซียม เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้งาดำนิยมนำประกอบอาหารทั้งคาวและหวานเพื่อสุขภาพ แต่นอกจากงาดำจะมีส่วนช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงแล้ว งาดำ ยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิด “โรคอัลไซเมอร์” ได้อีกด้วย
“งาดำ” กับ “อัลไซเมอร์”
อัลไซเมอร์ คือ ภาวะที่สมองส่วนความจำเกิดความบกพร่อง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ โดยอาการจะค่อย ๆ แสดงออกช้า ๆ และเริ่มหนักขึ้น อาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง นอนหลับไม่สนิท เข้าใจอะไรได้ยากขึ้นเป็นสัญญาณที่แสดงถึงภาวะอันตราย หากเป็นระยะรุนแรง อาจถึงขั้นช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พบมากในผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และจากสถิติจำนวนผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่ผ่านมามีแนวโน้มว่า จะมีผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มขึ้นอีกทุกปี ๆ
“งาดำ” มีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยฟื้นฟูเซลล์ประสาทและชะลอการเสื่อมของเซลล์ประสาท ทำให้สมองสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ความจำดีและมีความเสี่ยงที่จะเกิด “โรคอัลไซเมอร์” ลดลง นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบที่แสดงให้เห็นว่านอกจากงาดำจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิด “โรคอัลไซเมอร์” ได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยป้องกันและฟื้นฟูโรคที่เกี่ยวข้องกับสมองได้อีกด้วย
ประโยชน์ด้านอื่น ๆ ของ “งาดำ” ที่มีต่อสุขภาพ
-มีส่วนช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
-เสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
-บำรุงหัวใจ ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
-ซ่อมแซมและบำรุงผิวพรรณ ช่วยชะลอวัย
-ชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย
-ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง
-ป้องกันและบรรเทาอาการกระดูกพรุน
-เสริมประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน
-ผ่อนคลายความเครียด ช่วยให้หลับสบาย
-บำรุงเลือด เสริมประสิทธิการการไหลเวียนเลือด
-บำรุงเส้นผมให้แข็งแรงและดำสวย
“งาดำ” แม้จะมีคุณประโยชน์มากมายก็จริง แต่ในงาดำมีปริมาณแคลอรีค่อนข้าง การรับประทานงาดำที่เกินความจำเป็นอาจส่งผลให้คุณอ้วนขึ้นได้ คุณจึงควรรับประทานงาดำในปริมาณที่พอดีควบคู่ไปกับการพักผ่อนให้เพียงพอและเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและความจำ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่ว มีโอกาสที่จะแสดงอาการแพ้หลังรับประทานงาดำได้เช่นกัน ดังนั้นผู้ที่มีประวัติการแพ้อาหารประเภทนี้จึงควรหลีกเลี่ยงหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทาน
Share this Article
