ลดเสี่ยงโรคร้ายด้วย “น้ำมันมะพร้าว”
เรียกได้ว่ายุคปัจจุบันเป็นยุคที่ทุกคนต่างหันมารักษาสุขภาพกันอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแทนผลิตภัณฑ์ที่มาจากการสังเคราะห์ น้ำมันมะพร้าว ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่กลุ่มคนรักสุขภาพเลือกใช้แทนน้ำมันพืชทั่วไป เนื่องจากเป็นไขมันดี ไม่มีไขมันทรานส์ อีกทั้งยังมีคุณประโยชน์อื่นๆ พ่วงท้ายอีกมากมาย
น้ำมันมะพร้าว ถูกจัดให้เป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำมันชนิดๆ อื่นในท้องตลาด เนื่องจากมีกรดไขมันอิ่มตัวโมเลกุลขนาดปานกลาง ส่งผลให้ดูดซึมง่าย ร่างกายสามารถเผาผลาญได้ทันทีทำให้ไม่มีไขมันสะสมในร่างกาย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี วิตามินเค แคลเซียม แมกนีเซียม เบต้าแคโรทีน ด้วยคุณค่าเหล่านี้จึงทำให้น้ำมันมะพร้าวถูกใช้ในการบริโภคเพื่อสุขภาพ จุดประสงค์เพื่อรักษาและป้องกันโรคร้ายต่างๆ ทั้งลดการอักเสบและติดเชื้อ ช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคกลุ่มเสื่อม เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคตับ และโรคไต
เนื่องจากเป็นไขมันโมเลกุลย่อยง่าย หลังจากที่รับประทานน้ำมันมะพร้าวเข้าไป ร่างกายสามารถดูดซับและเผาผลาญเป็นพลังงานได้ทันที จะช่วยกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยให้ร่างกายดึงไขมันที่สะสมอยู่ก่อนหน้ามาใช้เพื่อสร้างพลังงานแก่ร่างกาย เป็นการขจัดไขมันเก่าและไม่ทำให้เกิดไขมันใหม่ในร่างกาย ซึ่งแม้ว่าจะเป็นการรับประทานไขมันแต่ก็ไม่ทำให้เกิดคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ลิ่มเลือด หรือหลอดเลือดแข็งตัวเหมือนไขมันชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีวิตามินอีที่ช่วยขยายหลอดเลือดและป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดที่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจ การรับประทานน้ำมันมะพร้าวจึงถือเป็นการบำรุงหัวใจได้เป็นอย่างดี
น้ำมันมะพร้าวมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็งได้ เนื่องจากเป็นน้ำมันประเภทอิ่มตัวจึงไม่ถูกเติมไฮโดรเจน (hydrogenate) และแตกตัวเมื่อถูกกับอุณหภูมิสูง ที่สำคัญในน้ำมันมะพร้าวมีวิตามินอีช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการกลายพันธุ์ของยีน ยับยั้งการเกิดเป็นเซลล์มะเร็ง และการทำร้ายเซลล์ได้
คุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าวที่เปลี่ยนเป็นพลังงานได้ทันที จึงทำให้ไม่มีไขมันสะสมในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถนำไขมันที่สะสมอยู่ก่อนหน้าไปใช้เผาพลาญเป็นพลังงานแก่ร่างกาย ที่สำคัญการรับประทานน้ำมันมะพร้าวจะช่วยให้อิ่มนานขึ้น ชะลอความหิวออกไปได้นานขึ้น และรับประทานอาหารมื้อต่อไปได้น้อยลง
โรคปวดเมื่อย โรคมะเร็งผิวหนังและโรคกระดูก
ด้วยสรรพคุณที่ดูดซึมผ่านทางผิวหนังได้เป็นอย่างดี น้ำมันมะพร้าวจึงถูกใช้ในการรักษาโรคปวดเมื่อยโดยการใช้นวดเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อย และคลายความเครียด ช่วยปกป้องผิวหนังจากรังสีอัลตราไวโอเลตได้ดีจึงช่วยให้ผิวหนังไม่เหี่ยวย่นและเป็นต้นเหตุของโรคมะเร็งผิวหนัง อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วย
นอกจากป้องกันโรคในข้างต้นแล้ว น้ำมันมะพร้าวยังมีสรรพคุณอีกมากมาย เช่น ใช้ในการหมักผม เพื่อให้ผมดกดำ เป็นเงางาม ใช้บำรุงผิวพรรณให้ผิวเนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน สมานผิวจากการเกิดท้องลาย สามารถใช้เป็นคลีนซิ่งออยล์ทำความสะอาดผิวหน้าได้อีกด้วย เรียกได้ว่าน้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันธรรมชาติมากคุณประโยชน์ที่อยู่คู่คนไทยมานาน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนรักสุขภาพ ที่สำคัญราคาไม่แพงเกินเอื้อมอีกด้วย
Share this Article
