รู้หรือไม่? คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide) ไม่ได้มีดีแค่เรื่องผิว

        คอลลาเจน หลายๆคนรู้จักกับชื่อนี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะบรรดาสาวๆทั้งหลาย เพราะว่าคอลลาเจนมักถูกนำมาใช้บำรุงด้านความงาม ผิวพรรณ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เริ่มมีเลขอายุที่สูงขึ้น ส่งผลให้การผลิต และเก็บกักคอลลาเจนน้อยลง ทำให้มีผลที่แสดงออกมาบนร่างกายภายนอก อาทิเช่น ผิวหน้าเริ่มมีตีนกาที่บริเวณหางตา หน้าผากเริ่มมีรอยเหี่ยวย่น ใต้ตาเริ่มมีร่องลึก หรือแม้แต่ความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากปริมาณคอลลาเจนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ที่เผชิญปัญหานี้ ก็มักเสาะหาวิธีเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาสุขภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นการพึ่งคลินิคเสริมความงาม การฉีดโบทอกซ์ การร้อยไหมเพื่อยกหน้าให้กระชับเต่งตึง หรือการเติม Fat เพื่อให้หน้ากลับมาดูเด็กอีกครั้ง และอีกหนึ่งทางเลือกที่เป็นที่นิยมนั่นก็คือการเติมคอลลาเจนให้กับผิวนั่นเอง แต่ความเป็นจริงแล้ว นอกจากคอลลาเจนจะมีส่วนสำคัญในเรื่องการบำรุงดูแลสุขภาพด้านผิวและความเต่งตึงแล้วนั้น คอลลาเจนนั้นยังเป็นประโยชน์ในด้านการแพทย์เพื่อใช้บำรุงกระดูกอีกด้วย

        คอลลาเจนคือโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งโดยปกติคอลลาเจนจะมีอนุภาคที่ใหญ่ดังนั้นร่างกายจะต้องใช้กระบวนการย่อยก่อน จึงจะดูดซึมนำมาใช้ได้ ในขณะที่คอลลาเจนไตรเปปไทด์คือ คอลลาเจนที่มีขนาดอนุภาคเล็กกว่า ร่างกายไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการย่อยในการดูดซึม แต่สามารถนำไปใช้ได้ในทันที ซึ่งปกติแล้วคอลลาเจนไตรเปปไทด์เป็นองค์ประกอบสำคัญในกระดูกและข้อต่ออยู่แล้ว หรือกล่าวได้ว่าร่างกายไม่สามารถขาดคอลลาเจนได้เลย ซึ่งในหลายงานวิจัยมีการศึกษาค้นคว้าเรื่องของคอลลาเจนไตรเปปไทด์ที่มีผลต่อกระดูก และพบว่าคอลลาเจนไตรเปปไทด์มีส่วนสำคัญในการบำรุงกระดูกให้แข็งแรง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บ หรืออาการปวดข้อให้ลดลงได้ รวมไปถึงคอลลาเจนไตรเปปไทด์ยังมีส่วนลดความเสี่ยงการเกิดโรคจากข้อต่อ และข้อเข่าเสื่อมนั่นเอง

        จะเห็นได้ว่านอกจากคอลลาเจนไตรเปปไทด์จะมีส่วนช่วยด้านสุขภาพความงามแล้วนั้น คอลลาเจนไตรเปปไทด์ยังเป็นประโยชน์ต่อระบบกระดูก และข้อต่อต่างๆในร่างกายของเราอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรละเลยที่จะเติมคอลลาเจนเข้าร่างกายให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อไม่ให้เจอปัญหาที่ตามมาเมื่อมีอายุที่มากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมีการผลิตคอลลาเจนไตรเปปไทด์มาในหลายรูปแบบทั้งแบบชง และแบบเม็ดหรือแคปซูล ซี่งสามารถรับประทานได้สะดวกมากขึ้น แต่ก่อนที่จะเลือกรับประทาน ควรตรวจสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตราฐานจาก อย. เพื่อความปลอดภัยต่อการบริโภคนั่นเอง