“ถั่งเฉ้า” กับการรักษาอาการหยางพร่องในไตและผู้ป่วยโรคไต
“ไต” เป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญของร่างกายหากไตใช้งานไม่ได้ก็อาจทำให้ถึงขึ้นเสียชีวิตได้ โดย “ไต” จะทำหน้าที่ในการช่วยกรองของเสียที่อยู่ในเลือดออกจากร่างกายในรูปของปัสสาวะและมีหน้าที่ปรับสมดุลของน้ำในร่างกายด้วยหากรับประทานน้ำมากเกินไปไตจะทำการขับน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายทำให้ปัสสาวะบ่อยและหากดื่มน้ำน้อยเกินไปร่างกายจะเก็บน้ำไว้ทำให้ปัสสาวะน้อยลงและมีความเข้มข้นมากขึ้น
อาการหยางพร่องในไต หลายคนอาจไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน ผู้ที่มีอาการนี้จะมีอาการปวดหลัง ปัสสาวะบ่อย กลัวหนาว หรือ หัวเข่าเย็น ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทำงานผิดปกติของไตนั่นเอง
การสังเกตุอาการเสี่ยงจะเป็นโรคไต อาการของผู้ป่วยโรคไตที่พบบ่อยจะมีอาการปวดหลัง ปวดบั้นเอว รู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ซีด ตัวบวม ปัสสาวะผิดปกติเช่น ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะบ่อยหรือน้อยกว่าปกติและมีอาการความดันโลหิตสูงร่วมด้วย
การป่วยเป็นโรคนี้ทำให้ผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมานเพราะถูกจำกัดเรื่องอาหารการกินและยังต้องไปฟอกไตเป็นประจำ หลังฟอกไตผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนเพลียต้องพักเป็นเวลานาน ยิ่งอาการของโรคไตหนักมากก็ต้องไปฟอกไตบ่อยครั้งขึ้นแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็สูงตามไปด้วย ทำให้หลายคนเลือกรักษาด้วยสมุนไพรจีนควบคู่ไปด้วยและสมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณในการบำรุงไตก็ได้แก่ “ถั่งเฉ้า” สมุนไพรจีนที่เกิดจากการรวมตัวกันของหนอนผีเสื้อและเห็ด โดยหนอนผีเสื้อได้กินสปอร์เห็ดเข้าไประหว่างที่จำศีลอยู่ใต้ดินและเห็ดนั้นได้เติบโตขึ้นจากภายในของตัวหนอนกลายเป็นสมุนไพรที่หายากและมีราคาสูงเพราะมีประโยชน์หลากหลายจนได้รับการขนานนามว่าเป็นยาอายุวัฒนะเลยทีเดียว
ได้มีการนำ “ถั่งเฉ้า” มาวิจัยโดยให้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังรับประทานถั่งเฉ้าปริมาณ 3-5 กรัมต่อวัน พบว่าถั่งเฉ้าทำให้การทำงานของไตมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเมื่อทานต่อเนื่องเป็นเวลา 1 เดือนสามารถลดอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่เกิดจากภาวะไตวายได้ ได้แก่ ลดความดันโลหิต ลดระดับโปรตีนในปัสสาวะ ลดการเกิดภาวะโลหิตจาง เพิ่มความต้านทานโรคลดความถี่ในการเข้ารับการฟอกไตเพราะ “ถั่งเฉ้า” มีสรรพคุณในการบำรุงไตช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของไต ลดความเสียหายของไตที่เกิดจากสารพิษตกค้าง รวมถึงช่วยบรรเทาอาการหยางพร่องในไตได้เกือบ 100%
นอกจากบำรุงไตแล้ว “ถั่งเฉ้า” ยังมีสรรพคุณในการบำรุงปอดและตับด้วย แม้ว่าตอนนี้คุณไม่ได้ป่วยเป็นโรคไตแต่การป้องกันและบำรุงรักษาอวัยวะภายในร่างกายด้วยการรับประทานอาหารที่มีปะโยชน์อยู่เสมอจะช่วยให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงอย่างยั่งยืนค่ะ
Share this Article
