ป้องกันโรคมะเร็งด้วยสารสกัดจากขิง (Ginger Extract)
ขิง (Ginger) มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เป็นยาอายุวัฒนะที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน ที่ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยร่างกายของเราสามารถนำเบต้าแคโรทีนที่ได้รับจากอาหารไปเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ เบต้าโรทีนช่วยในการชะลอความเสื่อมของเซลล์ มีส่วนช่วยในการป้องกันและต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และยังช่วยลดผลข้างเคียงจากสารเคมีที่ใช้ในการรักษามะเร็ง ดังนั้น การรับประทานสารสกัดจากขิงควบคู่ไปกับการรักษามะเร็งจะเป็นผลดีต่อผู้ป่วยในด้านการบรรเทาอาการและภาวะแทรกซ้อนจากการให้ยา และช่วยในการต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งด้วย
สารสกัดจากขิงต้านมะเร็งได้อย่างไร
สารสกัดจากขิงมีส่วนช่วยในการต่อต้านและป้องกันโรคมะเร็ง โดยสารต้านอนุมูลอิสระในขิงจะช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและช่วยกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส (Glutathione S-transferase Enzyme) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันมะเร็งได้ โดยเอนไซม์ชนิดนี้มีส่วนช่วยในการทำลายสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย ป้องกันการเจริญเติบโตอย่างผิดปกติของเซลล์มะเร็ง
ด้วยคุณสมบัตินี้ จึงมีการนำสารสกัดจากขิงมาใช้เพื่อการดูแลสุขภาพมากมาย เช่น การใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีขิงเป็นส่วนประกอบเพื่อช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ ลดโอกาสและความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้สารจินเจอรอลที่พบในขิง (Gingerol) ยังช่วยลดการดูดซึม LDL Cholesterol และช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย นอกจากมีจินเจอรอล (gingerol) ยังมี โชกาออล (shogaol) ซิงเจอโรน (zingerine) ที่ช่วยในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย
โดยสรุปแล้วสารสกัดขิงสามารถต้านการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ได้แก่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งตับอ่อน เป็นต้น การรับประทานสารสกัดจากขิงยังช่วยลดผลข้างเคียงจากสารเคมีที่ใช้ในการรักษามะเร็ง ดังนั้น ควรรับประทานขิงควบคู่ไปกับการรักษามะเร็งจะเป็นผลดีต่อผู้ป่วยในระยะยาว เนื่องจาก ขิงช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา โดยเฉพาะอาการอาเจียนระหว่างการได้รับยาเคมีบำบัดและการรักษาด้วยการฉายรังสี โดยมีงานวิจัยรับรองและยืนยันมากมาย
การรับประทานสารสกัดขิงนั้น จะต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการรับประทานสารอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ และในปัจจุบันสารสกัดจากขิงถูกนำบรรจุเป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติที่ใช้ในการช่วยรักษาแบบประคับประคองในผู้ป่วยหลังผ่าตัดและผู้ป่วยโรคอื่นๆได้ด้วย เช่น ในผู้ป่วยหลังการผ่าตัดโดยรับประทานเพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนหลังการผ่าตัด การให้สารสกัดขิงในผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด หรือ ฉายแสง เป็นต้น
Share this Article