โสมกับการดูแลผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน

             โรคเบาหวานเป็นโรคที่จะต้องคอยดูแลรักษาสุขภาพไปตลอดชีวิต เนื่องจากยังไม่มียาตัวใดที่จะรักษาให้หายขาดได้ แต่สำหรับคนที่รู้จักดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ก็จะสามารถมีชีวิตความเป็นอยู่เหมือนคนปกติได้ และโสมก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่คนเป็นโรคเบาหวานมักจะเลือกใช้ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดนั่นเอง

รู้จักกับโสม

            ไม่ว่าจะเป็นโสมจีน โสมเกาหลี หรือโสมของฝั่งอเมริกา ล้วนแต่เป็นสมุนไพรชนิดหัวที่มีสรรพคุณโดดเด่น ในฐานะเป็นยาบำรุงกำลัง เนื่องจากช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตในแง่ของการปรับสมดุลให้แก่ร่างกายเป็นพื้นฐาน โดยมีความน่าเชื่อถือ เพราะได้ผ่านการวิจัยและรับรองมาแล้วจากนักวิจัยในหลายประเทศ โสมจึงถูกนำมาสกัดเพื่อใช้เป็นยาในการแก้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยเฉพาะความดันโลหิตและโรคเบาหวาน เป็นต้น

            ก่อนอื่นเราควรทำความเข้าใจว่า โสมที่เกิดในประเทศที่มีภูมิอากาศแตกต่างกันจะมีฤทธิ์ที่แตกต่างกันด้วย เช่น โสมที่พบในประเทศฝั่งยุโรปจะมีฤทธิ์เย็น ส่วนที่พบในฝั่งเอเชียจะมีฤทธิ์ร้อน ดังนั้นเวลาจะรับประทานจึงควรทราบพื้นฐานเกี่ยวกับคุณสมบัติเหล่านี้ด้วย

โสมมีสรรพคุณด้านใดบ้าง

            คนจีนรู้จักโสมมาตั้งแต่โบราณกาล ในฐานะที่เป็นยาโป๊ว กล่าวคือช่วยเพิ่มสมรรถนะในการทำงานของร่างกาย และในด้านสภาพจิตใจก็ช่วยคลายความเครียด เมื่อรับประทานโสมจะทำให้ร่างกายหายจากความอ่อนเพลีย จึงนิยมรับประทานในส่วนของผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้น เพื่อให้มีความสดชื่นและฟื้นฟูร่างกายให้ดีเร็วขึ้น นอกจากนี้โสมยังช่วยในเรื่องของระบบภูมิคุ้มกัน ลดระดับน้ำตาลในเลือด และชะลอความแก่

ทำไมจึงแก้โรคเบาหวานได้

            คนที่เป็นโรคเบาหวานจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายที่มีชื่อว่า “อินซูลิน” นั้นควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี มีการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อนไม่สมดุล จึงเป็นเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

            แต่สรรพคุณของโสมนั้น สามารถช่วยให้ร่างกายดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้ช้าลง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์ที่ทำหน้าที่นำน้ำตาลกลูโคสในร่างกายไปใช้งานได้มากขึ้น อีกทั้งไปกระตุ้นให้ตับอ่อนสามารถเพิ่มการหลั่งของอินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ผู้ที่เป็นเบาหวานแล้วรับประทานโสม จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงได้

ข้อควรระวังในการใช้โสม

            โสมเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์แรง จึงต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่เป็นโทษ อีกทั้งในเวลารับประทานยังมีข้อห้ามก็คือ ห้ามรับประทานควบคู่กับผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูง เนื่องจากมีส่วนในการทำลายฤทธิ์ของโสมได้