แอล – คาร์นิทีน (L-Carnitine) มีผลต่อสุขภาพด้านไหนบ้าง

                ดังที่เราเคยได้ทราบกันมาแล้วว่า “แอล – คาร์นิทีน” เป็นสารที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ได้จากตับและไต โดยช่วยนำไขมันเข้าสู่กระบวนการเผาผลาญเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานแล้วนำมาใช้ ดังนั้นประโยชน์ของแอล – คาร์นิทีนที่มีต่อสุขภาพของเราจึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่กลับมีผลต่อการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายหลากหลายส่วนดังต่อไปนี้

แอล – คาร์นิทีนกับหลอดเลือด

                “แอล – คาร์นิทีน” เป็นสารอาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคหลอดเลือด ทั้งในส่วนของกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งถ้าร่างกายของเราได้รับแอล – คาร์นิทีนอย่างเพียงพอ โอกาสที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายหรือขาดเลือดเฉียบพลัน จะน้อยมาก เปรียบเหมือนคนที่เน้นรับประทานผัก จะไม่ค่อยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากโรคเหล่านี้มักจะมาพร้อมกับอาหารประเภทเนื้อสัตว์และไขมัน เพราะจะมีส่วนเกินหลงเหลืออยู่ในหลอดเลือด จึงทำให้เลือดสูบฉีดไม่ดี

แอล – คาร์นิทีนกับมวลกระดูก

                กระบวนการนำไขมันเข้าไปสู่ระบบเผาผลาญเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของแอล – คาร์นิทีน โดยในผู้สูงอายุที่อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกนั้น แอล – คาร์นิทีนในกระแสเลือดที่ลดต่ำลง จะส่งผลให้มีปัญหาในเรื่องของมวลกระดูกได้ แต่ถ้าร่างกายได้รับแอล – คาร์นิทีนอย่างเพียงพอ เนื้อเยื่อส่วนที่เป็นเซลล์กระดูกก็จะทำงานดีขึ้นตามไปด้วย

แอล – คาร์นิทีนกับสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ

                อนุมูลอิสระที่สะสมอยู่ภายในร่างกายจะส่งผลให้การทำงานของอวัยวะสำคัญบางอย่างผิดปกติไป แต่แอล – คาร์นิทีนมีคุณสมบัติสามารถช่วยต่อต้านการทำงานของตัวอนุมูลอิสระ จึงช่วยปกป้องโดยการต่อต้านกระบวนการ Lipid Peroxidation ในเนื้อเยื่อ และทำให้ปลอดภัยจากโรคภัยอย่างเช่นภาวะหัวใจขาดเลือด เป็นต้น

แอล – คาร์นิทีนกับสุขภาพโดยรวม

                กระบวนการเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงานที่ร่างกายจะนำไปใช้นั้น เป็นพื้นฐานของการช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ดังนั้นการทำหน้าที่ของ “แอล – คาร์นิทีน” จึงมีความสัมพันธ์ต่อสุขภาพของคนเราเป็นอย่างมาก ถ้ามีไม่เพียงพอก็จะทำให้ร่างกายขาดพลังงานที่จะนำไปใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิต กลายเป็นคนประเภททำอะไรนิดหน่อยก็รู้สึกเหนื่อยง่ายและอ่อนเพลียตลอดเวลา ส่งผลให้ร่างกายขาดภูมิต้านทานโรค

                ดังนั้นร่างกายจึงมีความจำเป็นต้องอาศัย “แอล – คาร์นิทีน” โดยควรรับประทานอาหารประเภทโปรตีนอย่างเนื้อสัตว์ นม และธัญพืชต่างๆ รวมไปถึงนมผึ้ง เพื่อรักษาความสมดุลภายในร่างกาย แล้วหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้งและไขมัน นอกจากนี้ควรหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้มีกล้ามเนื้อ เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน และแอโรบิค เป็นต้น

                สำหรับอาหารเสริมที่มี “แอล-คาร์นิทีน” ควรใช้เมื่อร่างกายขาดสารอาหารประเภทนี้เท่านั้น ไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะจะมีผลข้างเคียงตามมาอย่างเช่นคลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสียได้เหมือนกัน